ชุมชนท้องถิ่น
ในฐานะกลุ่มองค์กรทางอุตสาหกรรม มิชลินมีฐานที่มั่นระดับท้องถิ่นที่แข็งแกร่งในหลายประเทศ
ไม่ว่าจะประกอบกิจการอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม กลุ่มมิชลินมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานให้สอดคล้องกับชุมชนท้องถิ่นตลอดจนดูแลให้มั่นใจว่าได้สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนท้องถิ่นเท่าที่จะเป็นไปได้
บริบท
ผลกระทบของกิจกรรมการดำเนินงานแบ่งออกเป็นที่เกี่ยวข้องกับโครงการหลักๆ (การสร้างโรงงานแห่งใหม่ การปิดพื้นที่ปฏิบัติงาน การซื้อสวนยาง) และที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ดำเนินการอยู่ ณ พื้นที่ปฏิบัติงานต่างๆ
เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล มิชลินมุ่งมั่นที่จะดูแลให้มั่นใจว่ากิจกรรมการดำเนินงานของเราไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหรือความปลอดภัยของชุมชนท้องถิ่น, ไม่ลิดรอนสิทธิ์ของชุมชนท้องถิ่นในการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ (น้ำ, อาหาร, ผืนดิน, ที่อยู่อาศัย) และไม่ทำลายวัฒนธรรมหรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่น นอกจากนี้ มิชลินยังมุ่งมั่นที่จะดูแลให้การดำเนินงานส่งผลกระทบเชิงบวกต่อพัฒนาการของชุมชนท้องถิ่น
ค่านิยมและหลักปฏิบัติ
ไม่ว่าจะประกอบกิจการอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม กลุ่มมิชลินมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานให้สอดคล้องกับชุมชนท้องถิ่นตลอดจนดูแลให้มั่นใจว่าได้สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนท้องถิ่นเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยเหตุนี้ จึงมีพันธกิจดังต่อไปนี้
- ระบุความสนใจและความต้องการของประชากรที่อาศัยอยู่โดยรอบตั้งแต่ระยะแรกเมื่อเริ่มดำเนินโครงการจัดหาที่ดิน พัฒนาพื้นที่ปฏิบัติงาน และก่อสร้าง การให้คำปรึกษาแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียซึ่งเกี่ยวข้อง หรือได้รับผลกระทบจากโครงการนี้ครอบคลุมกลุ่มต่างๆ ซึ่งอยู่ในข่ายเปราะบางมากที่สุด
- มองหาโอกาสและปฏิบัติการที่ดีและเป็นประโยชน์สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียท้องถิ่น (การจ้างงาน, โครงการร่วมพัฒนา), ป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์เชิงลบ, ปรับโครงการต่างๆ เพื่อให้เกิด ประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียท้องถิ่นเท่าที่จะเป็นไปได้ และเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพ ความปลอดภัย การเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ หรือมรดกทางวัฒนธรรมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียท้องถิ่นระหว่างทำการก่อสร้างหรือเมื่อพื้นที่ปฏิบัติงานเปิดดำเนินการ
- รักษาการสื่อสารให้มีคุณภาพสูง โปร่งใส สม่ำเสมอ และตรงไปตรงมา กับทั้งชุมชนท้องถิ่นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายซึ่งอยู่ใกล้พื้นที่ปฏิบัติงาน
- จัดตั้งกลไกรับเรื่องร้องเรียน ในกรณีที่เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมหรือต่อประชากรท้องถิ่นต้องดำเนินการจัดการข้อร้องเรียนแต่ละเรื่อง พร้อมทั้งนำเสนอแผนชดเชยและฟื้นฟู โดยแจ้งให้ชุมชนท้องถิ่นทราบถึงระบบรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว
ข้อพึงปฏิบัติสำหรับผู้อำนวยการประจำพื้นที่ปฏิบัติงาน, ผู้อำนวยการโครงการปิดพื้นที่ปฏิบัติงานหรือโครงการก่อสร้างพื้นที่ปฏิบัติงานแห่งใหม่ ตลอดจนผู้จัดการฝ่ายการเข้าซื้อและควบรวมกิจการ:
สิ่งที่ควรทำ
ในทุกสถานการณ์
- ระบุความเสี่ยงและโอกาสสำหรับประชากรท้องถิ่น ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างพื้นที่ปฏิบัติงานแห่งใหม่, กิจกรรมการดำเนินงานของพื้นที่ปฏิบัติงานที่เปิดทำการอยู่ หรือการปิดพื้นที่ปฏิบัติงาน
- หาข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีผลบังคับใช้กับประชากรเฉพาะกลุ่ม (โดยเฉพาะกลุ่มผู้ด้อยโอกาส) ตลอดจนดูแลให้มั่นใจว่ามีการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมของประชากรท้องถิ่น
- กำหนดให้มีแผนปฏิบัติการบนฐานของข้อมูลที่ได้ข้างต้น เพื่อขจัดหรือบรรเทาผลกระทบเชิงลบตลอดจนสร้างโอกาสเชิงบวกสำหรับประชากรท้องถิ่น
- จัดตั้งกลไกรับเรื่องร้องเรียนที่เข้าถึงได้ง่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนที่ได้รับจากชุมชนท้องถิ่นให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเผยแพร่กลไกดังกล่าวให้เป็นที่รับรู้โดยทั่วกัน
สำหรับพื้นที่ปฏิบัติงานที่เปิดทำการปกติ
- จัดให้มีการเจรจาเชิงสร้างสรรค์อย่างสม่ำเสมอกับผู้พักอาศัยในท้องถิ่นใกล้กับพื้นที่ปฏิบัติงาน
- สนับสนุนให้มีการร่วมพันธมิตรกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในท้องถิ่น (สมาคม โรงเรียน ศูนย์วิจัย บริษัทต่างๆ ฯลฯ) เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกด้านสุขภาวะและพัฒนาการของประชากรโดยรอบ
- ดำเนินโครงการช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่น (Reaching Out to Local Communities: IVL) ในพื้นที่ปฏิบัติงานที่มีพนักงานมากกว่า 400 คน
- อ้างอิงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติตามข้อกำหนดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและการปกป้องสิ่งแวดล้อมซึ่งมีเป้าหมายเพื่อจำกัดทั้งระดับมลภาวะ การนำทรัพยากรที่หายากมาใช้ ตลอดจนความเสียหายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของชุมชนท้องถิ่น)
ระหว่างการก่อสร้างพื้นที่ปฏิบัติงานทางอุตสาหกรรม
- แจ้งให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในท้องถิ่นทราบถึงผลสืบเนื่องจากโครงการก่อสร้างผ่านการสื่อสารทางตรงโดยคำนึงถึงผลประโยชน์และข้อเรียกร้องของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในท้องถิ่นเพื่อให้การดำเนินงานก่อสร้างเป็นที่น่าพอใจสำหรับพวกเขา ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวไม่ควรจำกัดอยู่เพียงการเจรจากับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเท่านั้น ยังสามารถนำไปใช้กับบริษัทที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับมิชลินด้วยได้
- หากเป็นไปได้ ควรให้ความสำคัญลำดับแรกกับการสรรหาบุคลากรภายในท้องถิ่น โดยเคารพหลักการเรื่องการให้โอกาสที่เท่าเทียมกันและการไม่เลือกปฏิบัติ
- ให้ความสำคัญลำดับแรกกับการฝึกอบรมประชากรในท้องถิ่น หากข้อกำหนดเกี่ยวกับตำแหน่งงานอนุญาตให้ทำได้
เมื่อปิดพื้นที่ปฏิบัติงาน
- ดำเนินมาตรการที่จำเป็นทุกรูปแบบเพื่อทำความสะอาดพื้นที่ปฏิบัติงาน
- ส่งเสริมการรับโอนย้ายพนักงาน
- สนับสนุนให้เกิดการจ้างงานภายใต้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
เมื่อเข้าซื้อหรือบริหารจัดการสวนยาง
- บันทึกขั้นตอนการจัดสรรที่ดินเพื่อให้ทราบประวัติความเป็นมาของที่ดิน
- เคารพสิทธิการใช้และเข้าถึงที่ดินของผู้คน เพื่อให้พวกเขาสามารถเพาะปลูกพืชที่ใช้เป็นอาหารต่อไปได้
- ใช้สวนยางธรรมชาติอย่างยั่งยืน อ้างอิงนโยบายการปลูกยางธรรมชาติอย่างรับผิดชอบ ซึ่งกำหนดพันธกิจของมิชลินในด้านสังคม (การคัดสรรบุคลากร การฝึกอบรม การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น), เศรษฐกิจ (ความเคารพในเรื่องความปลอดภัยทางอาหาร) และสิ่งแวดล้อม (การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ)
สิ่งที่ไม่ควรทำ
- ดำเนินโครงการในที่แห่งใหม่โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์และความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในท้องถิ่นรายหลักๆ (ทั้งนี้ ควรจัดให้มีการเจรจาโดยตรงร่วมกัน)
- ไม่ติดตามความคืบหน้าของคำถามหรือข้อร้องเรียนที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในท้องถิ่นแจ้งให้ทราบ
- จำกัดการเจรจาอยู่เพียงกับหน่วยงานราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น
กรณีตัวอย่าง #1
คุณเป็นผู้จัดการโครงการที่ดูแลการสร้างโรงงานแห่งใหม่ในประเทศหนึ่ง เทศบาลท้องถิ่นได้ระบุที่ดินที่ใช้ก่อสร้างและอนุมัติโครงการก่อสร้างนี้แล้ว ขั้นตอนเท่านี้เพียงพอที่จะเริ่มการก่อสร้างได้หรือไม่
ไม่ได้ ก่อนที่โครงการนี้จะมีผลสมบูรณ์ คุณต้องจัดการเจรจากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายอื่นๆ ในวงกว้างด้วย โดยขอให้ทีมงานติดต่อสมาคม องค์กรธุรกิจ และโรงเรียนในท้องถิ่น เพื่อดำเนินการปรึกษาหารือร่วมกัน
ทั้งนี้ คุณอาจจ้างบริษัทภายนอกองค์กรเพื่อช่วยดำเนินการเรื่องนี้ได้
กรณีตัวอย่าง #2
คุณมีหน้าที่รับผิดชอบทีมงานด้านทรัพยากรมนุษย์ในประเทศหนึ่ง และกำลังพิจารณาที่จะสรรหาบุคลากรในท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครส่วนใหญ่ไม่เคยผ่านการฝึกอบรมที่จะทำให้มีคุณสมบัติสำหรับปฏิบัติงานสายวิชาชีพนี้ให้กับกลุ่มมิชลินได้ คุณควรทำอย่างไร
ก่อนที่จะพิจารณาสรรหาบุคลากรนอกท้องถิ่น คุณควรศึกษาความเป็นไปได้ที่จะฝึกอบรมประชากรท้องถิ่น ร่วมกับองค์กรจัดการฝึกอบรมต่างๆ
